มารู้จักพยาธิในแมวกันเถอะ =^_^=

สวัสดีค่ะ วันนี้ร้านสปูน เพ็ทช็อป มีบทความเกี่ยวกับพยาธิในแมวมาฝากกันค่ะ ว่าแต่ว่าถ้าใครยังไม่รู้จักหรือไม่เคยเห็น

ว่าพยาธิในตัวแมวมีกี่ชนิด แล้วหน้าตาเป็นอย่างไรบ้าง จะมีอันตรายกับแมวหรือเปล่า ตามมาอ่านบทความนี้ได้เลยค่ะ

แล้วจะได้ทราบความรู้เกี่ยวกับพยาธิในแมวมากขึ้น มาเริ่มกันเลยดีกว่าค่า =^_^=

พยาธิในแมว โดยปกติแล้วที่พบบ่อยๆจะมี 3 ชนิด (ทั้งหมดสามารถติดต่อสู่คนได้ค่ะ >.

1.พยาธิปากขอ พยาธิชนิดนี้จะมีขนาดเล็ก สังเกตได้ค่อนข้างยาก ลักษณะเด่นคือมีขอเกี่ยวบริเวณผนังลำไส้

และดูดเลือดเป็นอาหาร ถ้ามีพยาธิชนิดนี้เยอะๆแมวจะซูบผอมและมีอาการซีดจากการโดนดูดเลือด ถ้ามีพยาธิชนิดนี้

ในลำไส้มากๆ อาจมีอาการถ่ายเป็นเลือดร่วมด้วย พยาธิชนิดนี้หากมีเยอะอาจทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ค่ะ

สามารถติดต่อจากแม่แมวสู่ลูกแมวผ่านรกและน้ำนมได้ค่ะ

2.พยาธิตัวตืด (หรืออีกชื่อ พยาธิตืดหมัด/พยาธิเม็ดแตงกวา) ลักษณะลำตัวแบนยาวเป็นข้อปล้อง พยาธิชนิดนี้มีความสามาถในการแพร่พันธุ์สูงมาก โดยทุกๆปล้องของพยาธิชนิดนี้ สามารถแบ่งตัวเติบโตเป็นตัวใหม่ได้ โดยขยายพันธุ์ได้สูงสุดประมาณวันละ 1 ล้านตัวต่อวัน เรามักพบพยาธิชนิดนี้บริเวณรอบๆก้นของ เจ้าเหมียวหรือในอุจจาระ พยาธิชนิดนี้สามารถติดต่อได้ง่ายมากโดยการกินหมัดหรือเหาเข้าไป >.< พยาธิตัวตืดหากติดแล้วไม่ทำให้เกิดโรคและไม่ทำให้ท้องเสีย

แต่จะอุดตันลำไส้และทางเดินอาหาร จนทำให้ร่างกายทรุดโทรม

3.พยาธิตัวกลม อายุขัยเฉลี่ย 1-2 ปี พบบ่อยในลูกแมวมากกว่าแมวโต พยาธิตัวเมียโตเต็มวัยออกไข่วันละ 200,000 ฟอง พยาธิชนิดนี้มีลักษณะลำตัวยาวรูปทรงกระบอก หัวท้ายแหลมสามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้ค่ะ หากติดพยาธิตัวกลมส่วนใหญ่แมวจะไม่แสดงอาการ แต่อาจจะมีอาการอาเจียนร่วมกับเบื่ออาหารและน้ำหนักลด หากติดเชื้ออย่างรุนแรง

อาจทำให้ลูกแมวเสียชีวิตได้ โดยพยาธิชนิดนี้มีความสามารถในการชอนไชสูง สามารถชอนไชเข้าสู่ปอด ผนังลำไส้ ออกมาทางเดินหายใจ แล้วกลับ เข้าไปเจริญเติบโตต่อในร่างกายได้ค่ะ

บางทีตัวอ่อนของพยาธิชนิดนี้ก็สามารถชอนไชผ่านน้ำนมของแม่แมวไปสู่ลูกแมวได้ค่ะ หากติดต่อสู่คนพยาธิตัวกลมสามารถชอนไชและสร้างความเสียหายต่อระบบประสาทและจอประสาทตา

ทำให้สูญเสียระบบประสาทถาวรและตาบอดได้ค่ะ >.

พยาธิติดต่อได้อย่างไร???

บางทีแม้ว่าเราจะเลี้ยงแมวในระบบปิดแล้วก็ใช่ว่าจะปลอดภัย 100%

เพราะพยาธินั้นสามารถติดต่อได้ง่ายมากโดยการกินอาหารที่มีไข่พยาธิปนเปื้อนหรือแม้แต่ถ้าหากแมวของเราจับ

นก หนู แมลงสาบ หรือจิ้งจกที่กินไข่พยาธิหรือตัวอ่อนของพยาธิที่ติดมากับสิ่งปฎิกูลเข้าไป เจ้าเหมียวของเราก็มีโอกาสติดพยาธิจากพาหะเหล่านี้ได้เช่นกันค่ะ ดังนั้นเจ้าของจึงควรจะพาแมวถ่ายพยาธิซ้ำทุกๆ 3 เดือนค่ะ โดยมีทั้งยาชนิดน้ำ

และเม็ด หลังจากป้อนยาถ่ายพยาธิประมาณ 6-24 ชั่วโมง พยาธิจะถูกถ่ายออกมาพร้อมกับอุจจาระค่ะ =) 

ซูมพยาธิปากขอ